Saturday, April 26, 2014

ใช้เทคโนโลยีในห้องสอบไม่ได้ (itinlife 447)





            ได้อ่านประกาศของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น ปี 2557 ประเด็นการแต่งกายว่าทั้งหญิงและชายต้องใส่เสื้อยืด ไม่มีปก ไม่มีประดุม ไม่มีกระเป๋า สวมกางเกงวอร์มขายาว ไม่อนุญาตให้สวมนาฬิกาหรือเครื่องประดับใด และห้ามสวมรองเท้าและถุงเท้าเข้าห้องสอบโดยเด็ดขาด จะเข้าห้องน้ำก็ให้เดินตาม บัตรที่ใช้ก็ต้องเป็นบัตรประชาชน จะใช้ใบแทนหรือบัตรที่ส่วนราชการอื่นออกให้ไม่ได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีความเข้มงวดมาก หากไม่ปฏิบัติตามก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบ แล้วยังมีอีกหลายเงื่อนไขหากถูกพบระหว่างการสอบก็จะถูกสั่งให้ยุติการสอบ เพราะเกรงว่าจะไม่เกิดความยุติธรรมในระหว่างผู้เข้าสอบด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเราไว้เนื้อเชื่อใจกันไม่ได้อีกแล้ว เมื่อต้องเข้าสู่สนามสอบแข่งขัน
            คาดว่าความเข้มงวดมีขึ้น เพื่อป้องกันผู้เข้าสอบกระทำการทุจริตในการสอบ ทั้งโดยตนเอง หรือเป็นเครือข่าย เพราะเทคโนโลยีมีประโยชน์และใช้ในการสื่อสารทางไกลได้ เคยมีข่าวว่าผู้เข้าสอบกระทำการทุจริตโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสื่อสาร ทั้งสอบตำรวจ สอบข้าราชการ และสอบครู ก็ล้วนมีข่าวการทุจริตเป็นกระบวนการแบบเครือข่าย อาทิ สอบครูผู้ช่วยปี 2556 พบปัญหาการทุจริตที่มากทั้งจำนวน และรูปแบบการทุจริต เช่น ส่งบุคคลอื่นเข้าไปสอบแทน ส่งสัญญาณคำตอบให้คนในห้อง ส่งสัญญาณด้วยเครื่องมือสื่อสาร และข้อสอบรั่วจึงพกเฉลยคำตอบเข้าห้องสอบ
            การสื่อสารเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ ผู้เข้าสอบจึงคิดว่าจะใช้เทคโนโลยีช่วยทุจริตในการสอบ ด้วยการส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์ทั้งแบบมาตรฐาน และปรับแต่งใหม่ เมื่อผู้จัดสอบจากส่วนกลางทราบเรื่องก็หาวิธีป้องกัน โดยเฉพาะการพกพาอุปกรณ์ติดตัวเข้าห้องสอบ เสื้อยืดที่ไม่มีกระเป๋าซุกซ่อนของ  กางเกงวอร์มที่ทำให้การพกเอกสาร และอุปกรณ์สื่อสารได้ยาก เครื่องประดับที่อาจปรับเป็นอุปกรณ์สื่อสารได้ จึงถูกห้ามนำเข้าห้องสอบ แต่ความพยายามในการทุจริตเป็นสิ่งที่ยากจะหยุดยั้ง แม้จะห้ามปรามด้วยกระบวนการทางกฎหมาย และคุณธรรม เรามาติดตามร่วมกันว่าจะมีข่าวทุจริตที่มาสั่นคลอนกระบวนการคุมสอบ ความน่าเชื่อถือในการรักษาความยุติธรรมระหว่างผู้เข้าสอบ หรือต้องเพิ่มมาตรการเรื่องการแต่งกายที่ทำให้เกิดความโปร่งใสมากกว่านี้หรือไม่

No comments :

Think different