Tuesday, April 29, 2014

แลกเปลี่ยนเรียนรู้การประมวลผลข้อมูลทางสถิติ






29 เม.ย.57 จากการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องประมวลผลข้อมูลทางสถิติ
มีผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 21 คน ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 1 อาคารบริหารธุรกิจ
โดยสำนักงานบริหารงานบุคคล และสำนักงานมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
ร่วมกันจัดกิจกรรมอบรมการประมวลผลข้อมูลทางสถิติ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
ซึ่งเป็นบุคลากรสายสนับสนุน และอาจารย์จากแต่ละหลักสูตร
สอดรับกับโครงการวิจัย
การพัฒนาการบูรณาการระบบสารสนเทศบุคลากรโดยใช้ตัวแบบทูน่า
เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศบุคลากรตามตัวแบบทูน่า ที่มีการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศของมหาวิทยาลัย
สอดรับกับการประกันคุณภาพการศึกษา และความต้องการของบุคลากร

มีประเด็นแบ่งปันดังนี้
1. ในการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ร่วมกิจกรรม
ได้มีการแนะนำแหล่งแลกเปลี่ยน คลังความรู้ ในรูป ICT ดังนี้
http://it.nation.ac.th/sar
http://it.nation.ac.th/studentresearch
http://blog.nation.ac.th
https://www.facebook.com/groups/thaiebook/
โดยแฟ้มที่ใช้ประกอบการอบรมมี 3 แฟ้ม ดังนี้
https://www.facebook.com/download/1413415275599343/stat_fac_score.pptx
https://www.facebook.com/download/262284153944016/stat_oneway_anova.pptx
https://www.facebook.com/download/268444453329135/stat_ttest.pptx
เนื่องจากเวลาอบรม 9.00 - 12.00 จึงเปิด slide ได้ครบเพียง 2 slides
ส่วน t-test นั้นให้ผู้เรียนรู้ไปศึกษาต่อยอดด้วยตนเอง

2. ทำความเข้าใจเรื่อง ตัวแบบทูน่า ตามรายละเอียดดังนี้
โมเดลปลาทู (Tuna Model) เป็นโมเดลอย่างง่าย
ที่เปรียบการจัดการความรู้ เหมือนกับปลาทูหนึ่งตัวที่มี 3 ส่วน
ส่วน “หัวปลา” (Knowledge Vision- KV)
หมายถึง ส่วนที่เป็นเป้าหมาย วิสัยทัศน์ หรือทิศทางของการจัดการความรู้
โดยก่อนที่จะทำจัดการความรู้ ต้องตอบให้ได้ว่า “เราจะทำ KM ไปเพื่ออะไร ?”
โดย “หัวปลา” นี้จะต้องเป็นของ “คุณกิจ” หรือ ผู้ดำเนินกิจกรรม KM ทั้งหมด
โดยมี “คุณเอื้อ” และ “คุณอำนวย” คอยช่วยเหลือ

ส่วน “ตัวปลา” (Knowledge Sharing-KS)
หมายถึง ส่วนของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ซึ่ง “คุณอำนวย” จะมีบทบาทมากในการช่วยกระตุ้นให้ “คุณกิจ”
มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ โดยเฉพาะความรู้ซ่อนเร้นที่มีอยู่ในตัว
“คุณกิจ” พร้อมอำนวยให้เกิดบรรยากาศในการเรียนรู้แบบเป็นทีม
ให้เกิดการหมุนเวียนความรู้ ยกระดับความรู้ และเกิดนวัตกรรม

ส่วน “หางปลา” (Knowledge Assets-KA)
หมายถึง ส่วนของ “คลังความรู้” หรือ “ขุมความรู้” ที่ได้จากการเก็บสะสม “เกร็ดความรู้”
ที่ได้จากกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “ตัวปลา”
ซึ่งเราอาจเก็บส่วนของ “หางปลา” นี้ด้วยวิธีต่าง ๆ
เช่น ICT ซึ่งเป็นการสกัดความรู้ที่ซ่อนเร้นให้เป็นความรู้ที่เด่นชัด
นำไปเผยแพร่และแลกเปลี่ยนหมุนเวียนใช้ พร้อมยกระดับต่อไป
+ http://plan.rmuti.ac.th/plan/?p=176
+ http://www.thaiall.com/km

3. หัวข้ออบรม

- ความหมายของระดับข้อมูลทั้ง 4 แบบ
- สถิติพาราเมตริก และนอนพาราเมตริก
- สถิติเชิงพรรณา และสถิติเชิงอ้างอิง
- กลุ่มตัวอย่าง และประชากร
- การเลือกใช้ chi-square, one-way anova, f-test, t-test
การฝึกปฏิบัติ
- ได้ทดสอบกับ chi-square, one-way anova, f-test
- โดยมีตัวอย่างงานวิจัยของนักศึกษา MBA มาเป็นตัวแบบช่วยในการเรียนรู้

4. การแลกเปลี่ยนมุมมองของผู้เกี่ยวข้องตามบทบาท
- คุณเปรมจิต อินทรวิจิตร หัวหน้าสำนักงานเลขานุการกลาง
เชื่อว่าค่าสถิติต่าง ๆ ที่ได้เรียนรู้จะทำให้สามารถนำไปพัฒนางาน
และการจัดทำรายงานต่าง ๆ มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
- คุณภูษณิศา เนตรรัศมี หัวหน้าสำนักงานมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
เชื่อว่าการพัฒนาบุคลากรทั้งสายสนับสนุน และอาจารย์ในครั้งนี้
จะสร้างความเข้าใจในใช้ค่าสถิติต่าง ๆ ช่วยให้การเก็บข้อมูล
และการทำรายงานตอบได้ตรงตามตัวบ่งชี้ หรือเกณฑ์
ของทั้ง สกอ. และ สมศ. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อ.อัศนีย์ ณ น่าน ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต
ช่วยอธิบายเพิ่มเติม เช่น ความหมายของสถิติเชิงอ้างอิง
ว่าค่าที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างนั้น เป็นตัวแทนของประชากร
มีที่มาที่ไปที่จะช่วยสะท้อนถึงประชากรกลุ่มใหญ่
โดยจำนวนกลุ่มตัวอย่าง เช่น 400 คนที่สะท้อนทั้งอำเภอนั้น
มีทฤษฎีรับรอง และมีสูตรคำนวณตามหลักวิชาการ

5. ผู้เกี่ยวข้อง
วิทยากร ผศ.บุรินทร์ รุจจนพันธุ์
ผู้ช่วยวิทยากร น.ส.ศัลณ์ษิกา ไชยกุล
ผู้จัดกิจกรรม
- คุณมณธิชา แสนชมภู สำนักงานบริหารงานบุคคล
- คุณภูษณิศา เนตรรัศมี สำนักงานมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
ผู้ร่วมเข้ารับการอบรมประกอบด้วย
- อ.จักรกฤษณ์    ตันติพงศ์    คณะบริหารธุรกิจ
- อ.เถลิงศักดิ์    สุทธเขต    คณะบริหารธุรกิจ
- อ.มุทิตา    ธรรมสาโรช    คณะบริหารธุรกิจ
- อ.พัชรีภรณ์    หรพร้อม    คณะสังคมศาสตร์ฯ
- อ.เกศริน    อินเพลา    คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
- อ.ภิชญาดา    สิริยาวณิช    คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ
- อ.พฤกษ์ศราวุธ    จักร์สวย    คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ
- คุณภูษณิศา    เนตรรัศมี    สำนักงานมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
- คุณลักขณา    มะโนพันธุ์    สำนักงานมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
- คุณมณธิชา    แสนชมภู    สำนักงานบริหารงานบุคคล
- คุณขวัญชนก    รุจจนพันธุ์    สำนักงานบริหารงานบุคคล
- คุณกาญจนา    ศรีชัยตัน    สำนักหอสมุด
- คุณลัดดาวรรณ    เรือนทัศนีย์    สำนักงานทะเบียนฯ
- คุณรัชณี    พิศบุญ    สำนักกิจการนักศึกษา
- คุณณัฐกานต์    ไชยยาสมบัติ    สำนักเลขานุการกลาง
- คุณเปรมจิต    อินทรวิจิตร    สำนักเลขานุการกลาง
- คุณพัชร์วรินท์    สันสุวรรณ    สำนักเลขานุการกลาง
- คุณนฤมล    โนชัย    สำนักเลขานุการกลาง
- คุณศิริพร    ยาสมุทร    สำนักหลักสูตรและการเรียนการสอน
- คุณศรีสุดา    เทพแปง    สำนักงานบัณฑิตศึกษา
- คุณอนุสรา    สัญญารักษกุล    สำนักงานอธิการบดี

http://blog.nation.ac.th/?p=2920
https://www.facebook.com/ajburin/media_set?set=a.10150091779628895.278287.814248894
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.626080807469008.1073741976.228245437252549





Monday, April 28, 2014

กระบวนการบูรณาการจัดการเรียนการสอน



ได้อ่านบทความของ พระครูสังวรสุตกิจ ทำให้มองเห็นการกระบวนการพัฒนาการเรียนการสอนในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งท่านนำเสนอเรื่อง กระบวนการบูรณาการจัดการเรียนการสอนผ่านการชำระตำนานมูลศาสนาฉบับบ้านเอื้อม จังหวัดลำปาง (The integration of Teaching and Learning Through the Revision of Religion Mythology Wat Ban Uam in Lampang Provinces)

บทคัดย่อ
การวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษากระบวนการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนของคณาจารย์และพระนิสิตผ่านการชำระตำนานมูลศาสนาฉบับวัดบ้านเอื้อม  2) เพื่อสังเคราะห์ความรู้ที่ได้สู่แนวทางการนำไปใช้ขยายผล แผนการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่  ระยะที่ 1 เป็นการทำแผนการบูรณาการการจัดการเรียนการสอน ระยะที่ 2 นำแผนการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนไปใช้ปฏิบัติ ระยะที่ 3 เป็นการทบทวนสิ่งที่ได้ปฏิบัติ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาข้อมูลจากงานวิจัยเดิมเป็นหลัก ในลักษณะการวิจัยเชิงเอกสาร และทำการจัดเวทีการวิจัยเป็นระยะ ๆ จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (key Informants) จำนวน 35 รูป/ท่าน โดยแบ่งออกเป็นการจัดทำการสนทนากลุ่มเฉพาะแบบเจาะจง (focus group discussion) นักวิจัย 14  รูป/คน พระนิสิต 18 รูปและ พี่เลี้ยงศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดลำปางจำนวน 3 คน

ผลการวิจัยพบว่า
1. จากการดำเนินงานพบว่า ได้นำเนื้อหาจากตำนานมูลศาสนา ฉบับวัดบ้านเอื้อม ไปทดลองสอนแก่นิสิตชั้นปีที่ 3 นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะพุทธศาสตร์ พบว่า เนื้อหาสามารถมาบูรณาการกับการเรียนการสอนในรายวิชารัฐศาสตร์ในวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา และให้นิสิตได้ศึกษาและวิเคราะห์ถึงพัฒนาการการปกครองคณะสงฆ์ที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาการเมืองการปกครองของไทยในสมัยล้านนา อันเชื่อมโยงไปถึงบทบาทของพระสงฆ์กับการเมืองไทย สมัยสุโขทัยและศรีลังกา
2. การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียนพบว่า การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ทั้ง 2 รายวิชา ซึ่งเป็นการศึกษาตามเนื้อหาตำนานมูลศาสนาฉบับวัดบ้านเอื้อมจึงไม่ได้ เป็นประเด็นปัญหาในการค้นคว้าหาข้อมูลและหลักฐานอื่นซึ่งเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ล้านนา หรือประวัติศาสตร์ในยุคสมัยเดียวกันมาเปรียบเทียบ และในเนื้อหาของตำนาน หากมีระยะเวลาเพียงพอก็ยังสามารถนำไปสู่การบูรณาการโดยการเรียนรู้ 2 แบบ ทั้งในการเรียนรู้แบบวิเคราะห์และสังเคราะห์ ซึ่งจะเชื่อมโยงไปได้อย่างกว้างขวาง 
3. กำหนดกิจกรรมที่มุ่งเน้นการให้ผู้ทรงคุณวุฒิร่วมวิพากษ์และปรับปรุงเนื้อหาการเรียนการสอนใน 2 รายวิชาคือ รัฐศาสตร์ในวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนาและพระพุทธศาสนากับการพัฒนาการเมืองการปกครอง จากการวิพากษ์กระบวนการจัดการเรียนการสอนในรายวิชารัฐศาสตร์ในวรรณกรรมทางพระพุทธศาสนา และรายวิชาพระพุทธศาสนากับการเมืองการปกครอง จากคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทำให้ทีมวิจัยได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆในการขยายผลการบูรณาการการจัดการเรียนสอน เช่น การค้นหาตำนานเรื่องอื่นๆแล้วนำมาชำระ เพื่อนำมาบูรณาการในการจัดการเรียนการสอน


ติดตาม fullpaper ที่
http://www.scribd.com/doc/220648836/
หรือที่ http://www.mculampang.com

Saturday, April 26, 2014

ใช้เทคโนโลยีในห้องสอบไม่ได้ (itinlife 447)





            ได้อ่านประกาศของคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น ปี 2557 ประเด็นการแต่งกายว่าทั้งหญิงและชายต้องใส่เสื้อยืด ไม่มีปก ไม่มีประดุม ไม่มีกระเป๋า สวมกางเกงวอร์มขายาว ไม่อนุญาตให้สวมนาฬิกาหรือเครื่องประดับใด และห้ามสวมรองเท้าและถุงเท้าเข้าห้องสอบโดยเด็ดขาด จะเข้าห้องน้ำก็ให้เดินตาม บัตรที่ใช้ก็ต้องเป็นบัตรประชาชน จะใช้ใบแทนหรือบัตรที่ส่วนราชการอื่นออกให้ไม่ได้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีความเข้มงวดมาก หากไม่ปฏิบัติตามก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสอบ แล้วยังมีอีกหลายเงื่อนไขหากถูกพบระหว่างการสอบก็จะถูกสั่งให้ยุติการสอบ เพราะเกรงว่าจะไม่เกิดความยุติธรรมในระหว่างผู้เข้าสอบด้วยกัน เห็นได้ชัดว่าเราไว้เนื้อเชื่อใจกันไม่ได้อีกแล้ว เมื่อต้องเข้าสู่สนามสอบแข่งขัน
            คาดว่าความเข้มงวดมีขึ้น เพื่อป้องกันผู้เข้าสอบกระทำการทุจริตในการสอบ ทั้งโดยตนเอง หรือเป็นเครือข่าย เพราะเทคโนโลยีมีประโยชน์และใช้ในการสื่อสารทางไกลได้ เคยมีข่าวว่าผู้เข้าสอบกระทำการทุจริตโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในการสื่อสาร ทั้งสอบตำรวจ สอบข้าราชการ และสอบครู ก็ล้วนมีข่าวการทุจริตเป็นกระบวนการแบบเครือข่าย อาทิ สอบครูผู้ช่วยปี 2556 พบปัญหาการทุจริตที่มากทั้งจำนวน และรูปแบบการทุจริต เช่น ส่งบุคคลอื่นเข้าไปสอบแทน ส่งสัญญาณคำตอบให้คนในห้อง ส่งสัญญาณด้วยเครื่องมือสื่อสาร และข้อสอบรั่วจึงพกเฉลยคำตอบเข้าห้องสอบ
            การสื่อสารเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ ผู้เข้าสอบจึงคิดว่าจะใช้เทคโนโลยีช่วยทุจริตในการสอบ ด้วยการส่งข้อมูลผ่านอุปกรณ์ทั้งแบบมาตรฐาน และปรับแต่งใหม่ เมื่อผู้จัดสอบจากส่วนกลางทราบเรื่องก็หาวิธีป้องกัน โดยเฉพาะการพกพาอุปกรณ์ติดตัวเข้าห้องสอบ เสื้อยืดที่ไม่มีกระเป๋าซุกซ่อนของ  กางเกงวอร์มที่ทำให้การพกเอกสาร และอุปกรณ์สื่อสารได้ยาก เครื่องประดับที่อาจปรับเป็นอุปกรณ์สื่อสารได้ จึงถูกห้ามนำเข้าห้องสอบ แต่ความพยายามในการทุจริตเป็นสิ่งที่ยากจะหยุดยั้ง แม้จะห้ามปรามด้วยกระบวนการทางกฎหมาย และคุณธรรม เรามาติดตามร่วมกันว่าจะมีข่าวทุจริตที่มาสั่นคลอนกระบวนการคุมสอบ ความน่าเชื่อถือในการรักษาความยุติธรรมระหว่างผู้เข้าสอบ หรือต้องเพิ่มมาตรการเรื่องการแต่งกายที่ทำให้เกิดความโปร่งใสมากกว่านี้หรือไม่

Wednesday, April 23, 2014

ประกาศเรื่อง อัตราค่าบำรุงการใช้อาคารสถานที่

ภาพนี้วาดโดย คุณศัลณ์ษิกา ไชยกุล

ประกาศเรื่อง อัตราค่าบำรุงการใช้อาคารสถานที่
ของมหาวิทยาลัยเนชั่น เมื่อ 21 เมษายน 2557

โดย ค่าบำรุงการใช้สถานที่ หรือค่าเช่าสถานที่ ในมหาวิทยาลัยเนชั่น
- ห้องประชุมใหญ่ อาคารบริหารธุรกิจ 8000 ต่อวัน 5000 ครึ่งวัน
- ห้องประชุมใหญ่ อาคารนิเทศศาสตร์ 5000 ต่อวัน 3000 ครึ่งวัน
- ห้องประชุมอาคารดร.เทียมโชควัฒนา 3000 ต่อวัน 2000 ครึ่งวัน
- ห้องประชุมอาคารศูนย์นักศึกษาคริสเตียน 3000 ต่อวัน 2000 ครึ่งวัน
- ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 2000 ต่อวัน 2000 ครึ่งวัน (ค่าใช้คอมพิวเตอร์ 100บาท/คน/วัน)
- ห้องเรียนตามอาคารต่าง ๆ 1500 ต่อวัน 1000 ครึ่งวัน (ยกเว้น 1203 และ 1208)
- ห้องเรียน 1203 และ 1208 ค่าเช่า 3000 ต่อวัน 2000 ครึ่งวัน
- ลานข่วงดาว 4000 ต่อวัน
- ร้านดอยพระบาท เดือนละ 2000 ไม่รวมค่าไฟฟ้า
- อัฒจันทร์กลางแจ้ง (ริมอ่างตระพังดาว) 4000 ต่อวัน
- ลานดาวอาคาร ดร.เทียม 1500 ต่อวัน
https://www.facebook.com/download/640148846041063/%E0%B8%AD_%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84_%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8A_%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97__.pdf
ถ้ามีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของสังคม สามารถขอรับการยกเว้นค่าบำรุงได้



ภาพนี้วาดโดย คุณศัลณ์ษิกา ไชยกุล จาก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=623137804440406&set=a.524375080983346.1073741828.100002325765961


ผลสำรวจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง




เล่าสู่กันฟัง
นั่งอ่านอีเมลของเพื่อน 2 คน สื่อสารกัน เรื่องวิสัยทัศน์กับพันธกิจ
เขาว่าวิสัยทัศน์ต้องสะท้อนตามกรอบเวลา
ต้องวัดได้เมื่อสิ้นสุดกรอบเวลา ต้องเชื่อมโยงกับผลการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อน
ควรนำแผนเดิมมาทบทวนและปรับแผนใหม่
และที่สำคัญต้องใช้ข้อมูลเดิมเป็นฐานคิดสำหรับแผนใหม่
ทำให้นึกถึงเอกสารเรื่องเครื่องพิมพ์เมื่อ 2 ปีก่อนของคุณตุ้ย

ผลสำรวจข้อมูลมักนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจเป็นเรื่องสำคัญ
วันนี้เห็นผลสำรวจการใช้เครื่องพิมพ์ประจำโต๊ะ
โดยเมื่อ 2 ปีก่อน คุณตุ้ย เพื่อนที่ทำงาน
ได้เก็บข้อมูลการใช้เครื่องพิมพ์ 3 เดือน ในแต่ละหน่วยงาน
ซึ่งเป็นเครื่องประจำโต๊ะ ต่างกับปัจจุบัน
ที่ใช้ multifunction printer

ตอนนั้นเก็บข้อมูล .. แล้วพบว่า
จำนวนหน้าพิมพ์ กับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับหมึกพิมพ์ ไม่สอดคล้องกัน
เพราะค่าหมึกพิมพ์มีราคาสูง เมื่อเทียบกับการใช้เครื่องพิมพ์เครือข่าย
หลังการติดตามตรวจสอบ และประเมินความเป็นไปได้ ที่สอดคล้องกับ
การดูแลความเสี่ยงเรื่องงบประมาณ ที่ อ.ชิน พูดถึงบ่อย ๆ
ตามองค์ประกอบที่ 8 การเงินและงบประมาณ ตามเกณฑ์ของ สกอ. ที่แนะนำในคู่มือ
ทำให้ตัดสินใจเลือกใช้ เครื่องพิมพ์เครือข่าย
ซึ่งลดค่าใช้จ่ายได้อย่างแน่นอน และองค์กรขนาดใหญ่ส่วนใหญ่
ก็เลือกใช้เครื่องพิมพ์แบบนี้



การใช้ network printer หรือ multifunction printer นั้น
ได้ทำคลิ๊ปเกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ ดังนี้
1. สแกนหนังสือ เป็น pdf ผ่าน multi-function printer
http://www.youtube.com/watch?v=x7J-DpVEu1Y
2. การใช้ autofeed scan หนังสือ
http://www.youtube.com/watch?v=-5QMjOZO8og

การวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนโอกาสและภัยคุกคาม (SWOT)
http://thaiall.com/swot/

Monday, April 21, 2014

ไข่แมงดาถ้วยจะยำหรือเผา ก็อร่อย แต่มีพิษ

คำถาม เขาว่ากินไข่แมงดาทะเล ถึงตายจริงหรือ
คำตอบ ไข่แมงดาถ้วยมีพิษจริงแท้ ไม่ว่าจะเผา หรือยำ ช่วง ก.พ. - มิ.ย.
วิธีป้องกัน คือ ไม่กิน จะได้ไม่เสี่ยง




จำได้ว่าสมัยก่อน ผมเคยกินซื้อแมงดาเผา มีไข่เต็มท้องจากท่าพระจันทร์
ไปเปิบคนเดียวที่หอพัก นึกแล้วยังเสียว ๆ อยู่เลย

ก็คงเหมือนหอย หรือปลาหมึกที่ไปกินแพรงก์ตอนที่มีพิษ
นอกจากจะรับพิษภายนอกแล้ว แมงดาทะเลยังมีพิษในตัวเองด้วย

อาการเมื่อได้รับพิษ
ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินมากหรือน้อยเท่าไร มักมีอาการชาที่ริมฝีปาก มือ เท้า เวียนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน เดินเซ แขนขาไม่มีแรง พูดไม่ออก กลืนลำบาก หายใจไม่ออก กล้ามเนื้อเกี่ยวกับการหายใจเป็นอัมพาต เนื่องจากพิษของ แมงดาทะเลเป็นพิษต่อระบบประสาทที่ควบคุมการหายใจ ในเด็กเล็กจะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ใหญ่

พิษของแมงดาถ้วยน่าจะมาจาก 2 สาเหตุ
1. ตัวแมงดาถ้วยไม่มีพิษ แต่เกิดจากแมงดาถ้วยไปกินตัวแพลงก์ตอนที่มีพิษ
หรือกินหอยหรือหนอนที่กินแพลงก์ตอนที่มีพิษเข้าไป
ทำให้สารพิษไปสะสมอยู่ในเนื้อและไข่ของแมงดาถ้วย
2. ตัวแมงดาถ้วยมีพิษ ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียในลำไส้สร้างพิษขึ้นมาได้เอง
ข่าวเมื่อ 12 มีนาคม 2557 ว่า ศ.นพ.วินัย วนานุกูล หัวหน้าศูนย์พิษวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศเตือนถึงอันตรายจากการกินไข่แมงดาทะเล ว่า แมงดาทะเลมีอยู่ 2 ชนิด คือ แมงดาถ้วยและแมงดาจาน ซึ่งแมงดาจานไม่มีพิษสามารถกินได้ แต่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษ เต็ตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) จากการกินไข่แมงดาทะเล 8 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงมากเกือบเท่าจำนวนผู้ป่วยทั้งปีของปี 2556
http://hilight.kapook.com/view/99191


http://www.med.cmu.ac.th/dept/parasite/public/Mangdataley.htm

การป้องกันตนเองจากมัลแวร์ (โปรแกรมไม่พึงประสงค์)


การป้องกันตนเองจากมัลแวร์
ด้วย 5 ไม่ 5 ให้

1. ไม่ดาวน์โหลดแฟ้มจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
2. ไม่ใช้ซีดี แผ่นดิสก์ แฟรชไดร์ฟ จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ
3. ไม่กดลิงค์ในอีเมล หรือ social media ที่ไม่น่าเชื่อถือ
4. ไม่ Login ผ่านเครื่องที่ไม่น่าเชื่อถือ
5. ไม่กำหนดรหัสผ่านที่ง่าย ต่อการคาดเดา
6. ให้สำเนาข้อมูลตามรอบเวลาอยู่เสมอ
7. ให้เปิดการตรวจสอบสิทธิ์การเข้าใช้ เมื่อออกห่างเครื่องทุกครั้ง
8. ให้หมั่นสังเกตว่ามีโปรแกรมไม่พึงประสงค์เข้าในเครื่องหรือไม่
9. ให้แยกส่วนของโปรแกรม และข้อมูลออกจากกัน
10. ให้ติดตั้งโปรแกรมต่อต้านไวรัส และไฟร์วอลล์



โปรแกรมไม่พึงสงค์ (Malware = Malicious Software)
คือ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีจุดประสงค์มุ่งร้ายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครือข่าย
มีความสามารถในการแพร่ระบาด และหลบหลีกการตรวจสอบจากผู้ใช้

ตัวอย่างยอดฮิต
- Virus : แพร่ตัวเอง แอบแฝงมิให้ผู้ใช้รู้ตัว และสร้างความเสียหาย
- Spyware : ผู้ใช้ติดตั้งโดยไม่ทราบผลมักไม่แพร่ตัวเอง ละเมิดข้อมูลส่วนตัว
- Phishing : หลอกให้ผู้ใช้เข้าใจผิด เช่น เปิดเผยรหัสผ่าน หรือโอนเงิน
- Keylogger : แฝงตัวเก็บข้อมูลการกดแป้นพิมพ์แล้วส่งให้ผู้ไม่ประสงค์ดี

สำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต



ที่มหาวิทยาลัยส่งเอกสารมาเชิญชวน ลองค้นดูพบว่า
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เชิญชวนตอบแบบสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ในประเทศไทย ปี 2557 เพื่อใช้ในการกำหนดนโยบายด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT)  เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวท่านและประเทศชาติมากที่สุด จำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลส่วนหนึ่งเพื่อใช้สะท้อนพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตจากภาคประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อให้การกำหนดนโยบายดังกล่าวสามารถตอบโจทย์และตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง รวมไปถึงการใช้เป็นข้อมูลประกอบการเตรียมความพร้อมด้าน ICT ของประเทศไทยเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จำเป็นจะต้องพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึง ICT อย่างมีคุณภาพ อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร จึงจัดให้มีการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นประจำอย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้ทราบข้อมูลพื้นฐาน ลักษณะและพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต รวมไปถึงคำถามพิเศษประจำปี โดยในปีนี้จะเป็นการสำรวจพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้น สพธอ. จึงใคร่ขอเชิญชวนท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดนโยบายด้าน ICT ของประเทศ โดยจะขอความร่วมมือจากท่านในการตอบแบบสำรวจฯ จำนวน 30 ข้อ ใช้เวลาตอบประมาณ 15 – 20 นาทีและเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณสำหรับความร่วมมือดังกล่าว จะมีการจับรางวัลผู้โชคดี
โดย ลุ้น iphone 5s, ipad และ mobile booster
http://www.etda.or.th/internetuserprofile2014/


การจับฉลาก โดยปกติจะได้คนละ 1 สิทธิ์
แต่มีเคล็ดลับในการกรอกมาฝากครับ
1. ท่านกรอกเองได้ 1 สิทธิ์
2. ตกลงกับเพื่อน แล้วสลับกันเป็นผู้แนะนำ ได้อีกคนละ 1 สิทธิ์
สรุปว่าได้ 2 สิทธิ์ในการลุ้นรางวัล
ผมว่าดีครับ เป็นการร่วมกิจกรรมกับภาครัฐ
ปล. คุณพิมพ์ ม.เนชั่น ศูนย์บางนา อีเมลมาบอกข่าวโอกาสนี้ครับ






เคยพูดคุยกับนักศึกษาว่า ถ้าศึกษาความสัมพันธ์ของเพศ กับความพึงพอใจ
ให้ใช้ T-TEST เพราะเพศมี 2 กลุ่ม ต่อไปคงไม่ได้แล้ว ต้องดูให้ดี ๆ ก่อน
อย่างชุดนี้เขามี 3 เพศ

Sunday, April 20, 2014

ใช้เฟสบุ๊ค สามารถทำมาหากินได้



ที่ e-commerceworkshop.com จัดอบรมการใช้งานเครือข่ายสังคม
ทำธุรกิจ ขายสินค้าบนเฟสบุ๊ค ผมว่าดีนะ เพราะอยากเห็นคนขายสินค้าดี ๆ บนเฟสบุ๊ค
ไม่ใช่ขายแต่ยาลดความอ้วนเต็มไปหมด

ผมว่าการใช้เฟสบุ๊คให้เกิดประโยชน์
เป็นเรื่องน่าสนับสนุนอยู่แล้วครับ
เห็นข่าว วูดดี้สัมภาษณ์หนุ่มที่ยอมถูกไล่ออกจาก
แบบนี้น่าจะเพิ่มขึ้นทุกวัน
รู้สึกเป็นคนละขั้วกับคนที่คิดจะใช้เฟสบุ๊คทำมาหากินเลย
https://www.facebook.com/E.Commerce.Workshop/photos/a.420943791343738.1073741892.362030893901695/507775005993949/

ปัญหาด้านไอทีต่อเยาวชนไทยในปัจจุบัน


ปัญหาด้านไอทีต่อเยาวชนไทยในปัจจุบัน
1. ปัญหาสื่อลามกผ่านอินเทอร์เน็ต
สื่อลามก เป็นอย่างนี้นี่เอง - sexual crime
http://www.youtube.com/watch?v=E-9YwdjAI_E
2. ปัญหาติดเกมออนไลน์
พ่อหนุ่ม เกาหลีใต้ ติดเกมออนไลน์ ฆ่าลูก 2 ขวบ
http://www.youtube.com/watch?v=8S-40tar3AY
3. ปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าว
ลูกโหด แม่เตือนเล่นเกมส์ แทงดับ
http://www.youtube.com/watch?v=-tyqVGmq0Xo
http://www.koratnana.com/index.php/topic,2301.0.html
4. ปัญหาการแชทเกินขนาดหรือทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม
ติดเฟสบุ๊คจนโดนไล่ออกจากงาน
http://www.youtube.com/watch?v=sEVuofg7Ang
http://www.youtube.com/playlist?list=PLwe41fVLlK4DcTAYwC7I4jmTmLoDcI6Qq

แนะนำโปรแกรมที่น่าสนใจ
http://www.icthousekeeper.in.th/download.php
http://www.zonealarm.com/security/en-us/zonealarm-pc-security-free-firewall.htm

จากหนังสือ "สารพัดเคล็ดลับป้องกันภัยออนไลน์"
โดย ณัฐวุฒิ ปิยบุปผชาติ  บริษัท ไอดีซี อินโฟ ดีสทริบิวเตอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด

การปอกมะพร้าว




มะพร้าวมีมากทางภาคใต้ของประเทศไทย
แต่ภาคอื่น ๆ ก็มีมะพร้าวปลูกไว้ตามบ้านเช่นกัน
เพราะมะพร้าวให้กะทิ เพื่อใช้ประกอบอาหารและทำขนม
นอกจากนี้บางพันธ์ยังมีน้ำที่หอมหวาน
ไม่เน้นเนื้อ ชื่อมะพร้าวน้ำหอม
และบางพันธ์มีลำต้นเตี้ย ไม่กี่ปีก็ออกลูกแล้ว
ทำให้สามารถเด็ดลูกมาทานได้ ไม่ต้องอาศัยลิงปีนมะพร้าว
มีการเพิ่มมูลค่ามาพร้าวด้วยการแปรรูปที่หลากหลาย
เช่น มะพร้าวเผา มะพร้าวแก้ว เป็นต้น
หากมีต้นมะพร้าวสักต้นในบ้าน ก็คงต้องปอกให้เป็น
มาชมวิธีการปอกมะพร้าวน้ำหอมครับ

Saturday, April 19, 2014

หาอาหารนานาชาติทาน ที่ชื่อ เทมปุระหัวหอม



มีโอกาสเดินที่ Lotus Market สาขาปงสนุก
เห็นหัวหอมลูกแป้น ๆ แล้วนึกถึงอาหารฝรั่งในร้าน fast food
ที่ชื่อ onion ring ราคาเซตละหลายตัง
ลองมาทำเองจะสู้ในร้านได้รึเปล่านะ

ทำอาหารที่ลำปาง มีหลายชื่อ
1. ร้าน fast food เรียกว่า onion ring
2. ร้านอาหารญี่ปุ่นเรียกว่า เทมปุรุหัวหอม
3. อาหารไทยเป็นผักทอดจิ้มน้ำพริกกะปิ

ที่ซื้อมา คือ แป้งโกกิถุงละ 13 บาท
กับหัวหอม 3 หัว 18 บาท (กิโลละ 25 บาท)
เด็ก ๆ หั่นไป 1 หัว ก็เต็มจานแล้ว
ต้นทุนหัวหอมกับแป้ง ราว 10 บาท
ดูสูตรจากอินเทอร์เน็ตว่าให้ใช้น้ำเย็นผสมแป้ง
และหยดซีอิ้วขาวเพิ่มรสชาด



https://www.facebook.com/media/set/?set=a.1492576827628392.1073741869.1399580723594670

ไวรัสติดคนหรือติดคอม (itinlife 446)




            ไวรัสคอมพิวเตอร์ (Computer Virus) ในบทความนี้ไม่ได้หมายถึงจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดการติดเชื่อในตัวคน เช่น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือไวรัสฝีดาษ แต่เป็นไวรัสที่พบเห็นได้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งไวรัสคอมพิวเตอร์ หมายถึง โปรแกรมชนิดหนึ่งที่สามารถทำสำเนาตัวเองไปติดในเครื่องคอมพิวเตอร์ และสามารถแพร่ระบาดไปยังเครื่องอื่นโดยเจ้าของเครื่องไม่ใช่ผู้ดำเนินการโดยตรง แต่ยังมีสิ่งที่เทียบเคียงได้กับไวรัส คือ ไวรัสจอมปลอม หรือไวรัสหลอกลวง (Hoax) หมายถึงไวรัสรูปแบบหนึ่งมีพฤติกรรมก่อกวนการใช้งานคอมพิวเตอร์ และผู้ใช้ทั่วไป มักมาในรูปจดหมาย ข้อความ ภาพในเว็บบอร์ด อีเมล หรือเครือข่ายสังคม ที่มีเนื้อหาบิดเบือนความเป็นจริง และอาศัยความหวังดีของมนุษย์ในการเป็นผู้ทำให้การระบาดเกิดขึ้น ถ้ามนุษย์ไม่หวังดีก็จะส่งผลให้ไวรัสหลอกลวงไม่สามารถระบาดได้ หากมีผู้หวังดีจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้เกิดการแพร่กระจายของไวรัสหลอกลวงมากเช่นกัน

            ตัวอย่างของไวรัสหลอกลวง คือ มีผู้ออกแบบข้อความที่ต้องใช้หลักจิตวิทยา ทำให้ข่าวสารนั้นน่าเชื่อถือเป็นไวรัสหลอกลวง แล้วส่งต่อให้เพื่อนโดยมีข้อความให้เพื่อนที่หวังดีช่วยกันส่งต่อ เช่น ขณะนี้ฮอตเมล์จะเรียกเก็บค่าใช้บริการ ถ้าไม่อยากเสียค่าบริการ ให้ส่งข้อความนี้ไปให้บุคคลอื่นจำนวน 50 คน หรือ ถ้านำขวดน้ำ PET ที่ใช้แล้วมาใส่น้ำอีกหลายครั้งจะทำให้สารพิษหลุดลอกจากขวด หรือ มีสารอันตราย SLS ในแชมพู เครื่องสำอาง และสบู่เหลวเป็นสารก่อมะเร็ง ต่างประเทศเลิกใช้แล้ว หรือ โปรดระหว่างแฟ้ม jdbgmgr.exe ให้ลบซะ ซึ่งโปรแกรมต่อต้านไวรัสยังไม่รู้ว่านี่คือไวรัส ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นความจริง แต่เป็นไวรัสหลอกลวง ที่ต้องการให้มีการเผยแพร่ต่อ ที่อาจก่อความเสียหายแก่ระบบคอมพิวเตอร์ หรือทำลายความน่าเชื่อถือต่อผลิตภัณฑ์
            ไวรัสหลอกลวงไม่ได้ติดต่อกันผ่านระบบคอมพิวเตอร์ การติดไวรัสเหล่านี้อาศัยความหวังดีของคน และความไม่เข้าใจ ถ้ามี 2 อย่างนี้ก็เป็นการง่ายที่จะติดคน แล้วถูกแพร่กระจายทั้งผ่านเครือข่ายสังคม หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ได้ ปัจจุบันมนุษย์เราสนใจความเชื่อมากกว่าความจริง เมื่อได้รับข้อมูลข่าวสารเชิงลบก็มักจะเชื่อโดยไม่กลั่นกรอง แล้วพร้อมจะส่งต่อ เหมือนข่าวการเมืองที่เป็นข่าวเชิงลบของฝ่ายที่เราไม่ชอบก็จะส่งต่อหรือแบ่งปันโดยไม่ให้ความสำคัญกับความจริง แต่อาศัยความพึงพอใจเป็นสำคัญ

แนะนำเว็บไซต์




http://www.varietypc.net/web/hoax-virus/ เตือนฮอทเมล์เก็บตัว

http://www.rta.mi.th/53220u/html/danger.html ประเภทไวรัส




Thursday, April 17, 2014

sketchup อาคาร ม.เนชั่น โดยน้องหญิง



17 เม.ย.57 น้องหญิง ศัลณ์ษิกา ไชยกุล มาฝึกงานที่ ม.เนชั่น
ทั้ง hardware และ software
มีงานชิ้นหนึ่งคือ ออกแบบอาคาร 3D
ให้วาด เพราะมีคำถามเข้ามาเสมอว่า
ห้องนั้น ห้องนี้อยู่ตรงไหนของอาคาร หรือมหาวิทยาลัย
หลังเขียนแบบเสร็จไป 2 ชั้นในแบบ 3D จะตรวจดู
พบว่าโปรแกรมที่ผมใช้เก่ากว่าของน้องหญิง
แม้จะใช้ sketchup ได้ฟรี แต่ก็จำกัดเรื่องเวลา และรุ่น
ของผมเป็นรุ่น 13 ใช้เปิดงานที่สร้างด้วยรุ่น 14 ไม่ได้
http://www.thaiall.com/sketchup/

สรุปว่าต้องลง sketchup 14 แล้ว
ไม่งั้นก็คงมองไม่เห็นแบบอาคารที่เขียนในแบบ 3D ไว้
ตัวโปรแกรม SketchUpWEN.exe ใหญ่ถึง 70 MB
http://www.thaiall.com/sketchup/ying_busi_floor2_570410_v14.skp
---
Fay D Flourite
https://www.facebook.com/fay.d.flourite.3


Wednesday, April 16, 2014

เนื้อย่าง บาร์บีคิว สเต็ก ปลาเผา ปลาย่าง มีสารพิษก่อมะเร็ง 3 ชนิด


ผมเคยทานอาหารฝรั่งหลายรายการ วันก่อนก็พาบุพการีไปรับประทานมา วันนี้พบว่ามีสารพิษที่อาจทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควร โดย คุณวิสิฐศักดิ์ วุฒิอดิเรก ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ เชียงราย เขียนเรื่อง สารก่อมะเร็งจากอาหารปิ้ง ย่าง ทอด อธิบายว่า จากการวิจัยค้นคว้าของนักวิทยาศาสตร์ได้ข้อสรุปของการเกิดมะเร็งว่า เกิดจากขบวนการหลายขั้นตอน โดยมีขบวนการเริ่มต้น (Initiation) หมายถึงการเริ่มต้นความผิดปกติของ DNA สารที่ก่อให้เกิดขบวนการเริ่มต้นเรียกว่า สารตั้งต้น (Initiator) สารก่อการกลายพันธุ์ จัดเป็นสารตั้งต้นได้ หลังจากนั้น DNA ที่ผิดปกติจะได้รับการส่งเสริมให้เกิดการถ่ายทอดต่อไปโดยขบวนการส่งเสริม (Promotion) โดยสารส่งเสริมมะเร็ง (Tumor promoter) ทำให้เกิดการเป็นมะเร็งในที่สุด สารก่อการกลายพันธุ์และสารก่อมะเร็งจึงมีความเกี่ยวข้องกัน ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อ DNA จนนำไปสู่การเป็นมะเร็ง
http://www.thaiall.com/data/badfood.htm
การเกิดโรคต่าง ๆ เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง สาเหตุหนึ่งคือ โรคที่เกิดจากการได้รับสารก่อกลายพันธุ์ และสารก่อมะเร็งในอาหารรมควัน และ อาหารปิ้ง ย่าง และ ทอด ซึ่งพบว่ามีสารพิษปนอยู่หลายชนิด อาหารที่ถูกทำให้สุกโดยให้ความร้อนโดยตรงบนอาหาร ได้แก่ เนื้อย่าง บาร์บีคิว สเต็ก ปลาเผา ปลาย่าง ไส้กรอกปิ้ง เป็นต้น อาหารดังกล่าวเป็นที่นิยมของคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะทำให้อาหารมีกลิ่นหอม และ รสที่เอร็ดอร่อย
จากการศึกษาพบว่าอาหารพวก ปิ้ง ย่าง ทอด มีสารพิษหลายชนิดที่ควรกล่าวถึง คือ
1.สารไนโตรซามีน (Nitrosamines)
2.สารกลุ่มพัยโรลัยเซต (Pyrolysates)
3.สารกลุ่มโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAH = Polycyclic aromatic hydrocarbon)

ที่มา : หนังสือความรู้สิ่งเป็นพิษ
ตอนที่ 14 พ.ศ.2543 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข หน้าที่ 1-3
http://webdb.dmsc.moph.go.th/ifc_toxic/a_tx_1_001c.asp?info_id=77

Tuesday, April 15, 2014

พบว่าในตลาดสดบางแห่งมากกว่าครึ่ง พบสารดองศพใน กุ้ง ปลาหมึก เห็ด ถั่ว ขิง



อ่านข่าว manager 24 ก.พ.57 พบสารดองศพ
ทำให้ กุ้ง ปลาหมึก เห็ด ถั่ว ขิง ดูสดใหม่ น่าทาน ทนนานไม่เน่าง่าย ราคางาม
สด ใหม่ ไม่มีกลิ่นเก็บไว้ได้นาน ลูกค้าก็ชอบ
แต่อธิบดีกรมอนามัย บอกว่า มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข
ฉบับที่ 93 พ.ศ.2528
เรื่องวัตถุห้ามใช้ในอาหาร ผู้ใดละเมิดใส่ในอาหารต้องระวางโทษ
แต่ก็มีถึงร้อยละ 59 ที่ตรวจพบจากการสุ่มตรวจ
ผมว่า การทานกุ้ง ปลาหมึก แบบไม่ปนสารดองศพ ต้องอาศัยดวงหละครับ
แล้วต้องลุ้นต่อว่า ถ้ารับสารแล้วร่างกายจะทนทาน
ไม่ทำให้เซลในร่างกายเราก่อมะเร็งแบบฉับพลันทันใด
ขออาการข้างเคียง เช่น อาการปวดหัวอย่างรุนแรง ปวดท้อง
ในปากและคอแห้ง หัวใจเต้นเร็ว แน่นหน้าอก อาจมีอาการถ่ายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน
ปัสสาวะไม่ออกหรือปัสสาวะเป็นเลือด .. ก็พอ

http://www.manager.co.th/Food/ViewNews.aspx?NewsID=9570000021712

24 ก.พ.57 ข่าวเรื่องการพบสารเคมีปนเปื้อนอยู่ในอาหารนั้นมีมานานแล้ว
ซึ่งสารเคมีที่พบอยู่ในอาหารนั้น บางชนิดก็เป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว
อย่างล่าสุดนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาบอกว่า ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2557
มีรายงานการสุ่มตรวจประเมินอาหารปลอดภัยของกรมอนามัย ในตลาดที่ จ.นครสวรรค์ 5 แห่ง
โดยมีการเก็บอาหารตรวจทั้งหมด 275 ตัวอย่าง

ผลที่ได้นั้นน่าตกใจมาก เพราะมีการพบการใช้สารฟอร์มาลินกับอาหารสด
เพื่อไม่ให้เน่าเสียง่าย โดยใน 5 แห่งนี้ ตรวจพบ 102 ตัวอย่าง เฉลี่ยร้อยละ 25
แต่บางแห่งเช่นในตลาดสดขนาดใหญ่ในเมือง พบร้อยละ 59
ซึ่งอาหารที่ตรวจพบได้แก่ กุ้ง ปลาหมึก หมึกกรอบ ขิงหั่นฝอย กระชายหั่นฝอย เห็ดฟาง
เห็ดนางฟ้า เห็ดหอมสด ถั่วฝักยาว สไบนาง (ผ้าขี้ริ้ว)
      
ทางด้าน ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า
อาหารในกลุ่มที่ตรวจพบฟอร์มาลินนั้น ที่ผ่านมามักจะตรวจพบสารฟอกขาว
ซึ่งการที่ตรวจพบฟอร์มาลินสูงขึ้น อาจจะเป็นเพราะพ่อค้าแม่ค้าเปลี่ยนจาก
การใช้สารฟอกขาวมาใช้ฟอร์มาลินแทน
ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศฉบับที่ 93 พ.ศ.2528
เรื่องวัตถุห้ามใช้ในอาหาร ผู้ใดละเมิดใส่ในอาหารต้องระวางโทษ
ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ฐานผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์
      
http://www.thaiall.com/data/badfood.htm

การเชื่อมต่อ Tablet เพื่อคัดลอกข้อมูลรูปภาพผ่าน USB




15 เม.ย.57 ต้องการใช้ประโยชน์จากแฟ้มภาพ
ที่เก็บไว้ในอุปกรณ์ Samsung Tab 10.1 จำนวน 2 เครื่อง
เครื่องแรก ไม่ได้ update ระบบปฏิบัติการ แล้วใช้รุ่นเดิมที่ได้จากโรงงาน
แล้วทำการ root เครื่อง เพื่อใช้ app ต่าง ๆ เช่น busybox + terminal
เครื่องที่สอง update ระบบปฏิบัติการตั้งแต่ตอนที่เปิดให้อัพเดท
ผลคือ เมื่อเชื่อมเครื่องที่สองเข้ากับ WinXP ไม่สามารถเชื่อมต่อได้
โดยใช้ driver GT-p7510_USB_Driver ขนาดราว 7 MB
แต่ถ้าใช้ driver Kies ของ samsung ที่ดาวน์โหลดวันนี้ ขนาด 60 MB
พบว่า
ทั้งสองเครื่องเชื่อมต่อเข้ากับ WinXP ได้ปกติ
แล้วผมก็คัดลอกภาพทั้งหมด ออกจาก DCIM มาใช้งานใน PC

ผมใช้สายชาร์ตแบบ USB ที่ไม่ได้ซื้อจากศูนย์ฯ
ราคาเส้นละ 150 บาทก็เชื่อมต่อได้ไม่มีปัญหา
เพราะเส้นที่ได้มากับเครื่อง สายหักในไปตั้งนานแล้ว

พบว่า อุปกรณ์รอบตัวเรา นำมาใช้ประโยชน์ได้เอนกอนันต์
แต่การนำมาใช้ก็อาจมีปัญหาที่ต้องแก้ไข
ก็ต้องคอยแก้กันไปตามอาการ เป็นเนืองนิจ
เหมือนร่างกายของเรา หิวก็กิน อิ่มก็หยุด
ง่วงก็นอน เหนื่อยก็พัก หลับก็ต้องตื่น
เป็นสัจธรรมว่า มีปัญหาก็ต้องมีวิธีแก้ไข



Monday, April 14, 2014

กินอาหารทะเล มีสารพิษ ส่งผลถึงตับ ไต ใส้ พุง ได้รับพิษ



อ่านข่าว thairath 25 มี.ค.57 พบว่า กรมอนามัย แนะนำกินอาหารหน้าร้อนปลอดภัย
ให้เลี่ยงประเภทหอย ซึ่งเป็นแหล่งสะสมขี้ปลาวาฬ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ทำให้ปากชา แน่นหน้าอก ห่วงอันตรายจากแบคทีเรียที่ปนเปื้อนในอาหารทะเล

http://www.thairath.co.th/content/412204

โดย ดร.นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า
อุณหภูมิที่สูงในช่วงหน้าร้อน ทำให้เชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่ในอาหารทะเลเจริญเติบโตได้ง่าย
อีกทั้งยังพบมีโลหะหนักหลายชนิด ทั้งตะกั่ว สังกะสี แคดเมียม และทองแดง
ในอาหารทะเล ประเภทปูม้า หอยนางรม และปลาหมึก โดยสารพิษเหล่านี้
มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และยังมีพิษอื่น ๆ ที่อาจพบได้ในอาหารทะเล
อาทิ ขี้ปลาวาฬ ที่เกิดขึ้นจากแพลงตอนจำพวกไดโนแฟลกเจลเลต  (Dinoflagellate)
สามารถพบได้ในน้ำทะเลทั่วๆ ไป สังเกตุได้จากน้ำมีสีน้ำตาลแดง
เมื่อมีอากาศร้อนจัดสัตว์ชนิดนี้ จะแบ่งเซลล์และเจริญเติบโตได้ในน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว
โดยขี้ปลาวาฬจะเข้าสู่สัตว์ทะเลผ่านทางห่วงโซ่อาหาร พบมากในหอย
ซึ่งจะสร้างสารพิษพวกไบโอท็อกซิน (Biotaxin) ที่ทนความร้อน
ไม่สามารถทำลายได้ในกระบวนการปรุงอาหาร
เมื่อกินเข้าไปจะทำให้มีอาการชาบริเวณปากและทำให้แน่นหน้าอก เคลื่อนไหวลำบาก
บางรายมีอาการอาเจียนด้วย

จากการตรวจวิเคราะห์ พบขี้ปลาวาฬ และไบโอท็อกซินในปริมาณที่สูงมาก
ส่วนใหญ่พบในหอยสองฝา เช่น หอยกะพง หอยนางรม
ซึ่งกินแพลงตอนทุกชนิด โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน
เป็นช่วงที่มีแพลงตอนชนิดนี้มากในน้ำทะเล
โอกาสที่หอยนางรมเป็นพิษก็เกิดได้มากเช่นเดียวกัน
ก่อนกินจึงควรนำไปแช่น้ำปูนเพื่อลดความเป็นพิษ หรืองดกินในช่วงนี้ก็จะเป็นการดี
นอกจากนี้ในอาหารทะเลยังพบแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคท้องร่วงมากที่สุด
คือ เชื้ออหิวาต์เทียม หรือวิบริโอพารา ฮีโมไลติคัส (vibrioparahaemolyticus)
เชื้อชนิดนี้สามารถพบได้ทั้งในน้ำทะเลและอาหารทะเล
เช่น ปลา ปูม้า หอย กุ้ง กั้ง ปูทะเล และปลาหมึก เป็นต้น
และยังพบในอาหารประเภทหอยแครงลวก ปลาดิบ ยำหอยนางรม ปูดอง หอยดอง
ซึ่งพบเชื้อได้ทั้งปีแต่จะพบมากช่วงหน้าร้อน ในเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
ซึ่งอาการที่ปรากฏชัด หลังจากกินเข้าไป 12-24 ชั่วโมง
คือ ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้องอย่างรุนแรง อาจมีอาการปวดศีรษะและหนาวสั่นร่วมด้วย

http://www.thaiall.com/data/badfood.htm

ล่องแพเหนือเขื่อนภูมิพลกับครอบครัวใหญ่



13 เม.ย.57 เมื่อวานมีโอกาสต้องเดินทางไปร่วมกิจกรรมกับครอบครัวใหญ่
ผมจำได้สมัยผมเด็ก ๆ ก็ราว 30 ปีก่อน เคยไปค้างที่เขื่อนฯ กับคุณพ่อคุณแม่มา 1 คืน
แต่ครั้งนี้ได้ไปกันเป็นครอบครัวใหญ่ โดยรวมกันหลายครอบครัวเล็ก
จึงมีเรื่องมาแบ่งปัน
หากครอบครัวใหญ่ของเพื่อน ๆ จะสนใจการล่องแพเหนือเขื่อน


เรื่องมีอยู่ว่า ..
เราไปล่องแพเหนือเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก
นัดแพไว้ 10.00น. วันที่ 13 เม.ย.57 และกลับเวลาเดียวกันของวันรุ่งขึ้น
ได้ติดต่อแพ ธ.กาญจนา
Tel.055-549238 081-9729673 081-8885166
ติดต่อผ่าน อาทิวา เป็นญาติที่ลำปางที่มีประสบการณ์มาค้างแรมบนแพ
เราเช่าแพขนาดใหญ่ ตกลงไว้ว่า 30 คน คิดค่าแพ 15,000 บาท
หรือหัวละ 500 บาทนั่นเอง แต่ในวันเดินทางรวมญาติได้ 38 คน
ทำให้ตอนกลับต้องจ่ายเพิ่มเป็น 19,000 บาท
บริการของแพมีที่นอน หมอน ผ้าห่ม ห้องน้ำ 4 ห้อง ชุดคาราโอเกะ น้ำเปล่า
เลี้ยงมื้อเที่ยงเป็นส้มตำกับทอดมันปลา และสมาชิกเตรียมห่อข่าวไปทานมื้อเที่ยง
มื้อเย็นเลี้ยงแบบโต๊ะจีน มีปลาทอด ผัดฉ่าปลาคัง ต้มยำปลาคัง ผัดผักใส่หมู น้ำพริกอ่อง
มื้อเช้าเป็นข้าวต้มกุ้ย มีหัวไชโป้ผัดไข่ ปลาเค็มหนึ่งแว่น  ไข่เค็ม ยำผักกาดดอง

http://www.thaiall.com/blogacla/burin/3867/

การเดินทาง แพเคลื่อนจากท่าแพ 10 โมงกว่า ปลายทางที่เจ้าของแพกำหนด
คือ เกาะวาเลนไทน์ (Valentine Island) ไปถึงราวเที่ยงตรง
คงเพราะเรือเล็กลากแพมีกำลัง จึงลากแพใหญ่ถึงที่หมายอย่างรวดเร็ว
ผมเดินสำรวจเกาะเกือบ 2 ชั่วโมง
เพราะเกาะค่อนข้างกว้างและชัน ไปถึงส่วนยอดของเกาะ เห็นรังอีกาบนยอดไม้
ยิ่งฤดูร้อนน้ำลด เกาะก็จะกว้างกว่าเดิม น้ำหลายจุดตื้นเขิน
มีสัตว์ชนิดหนึ่งที่ชาวแพบอกว่าเป็นแพะ ที่นำมาปล่อย เพราะรอบเกาะมีขี้แพะ
กระจายอยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะยอดเกาะ หรือริมหาดก็พบเห็นได้
ตกเย็นเด็กในแพสวมชูชีพ โดดเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน
แม้น้ำจะลึกแต่มีเสื้อชูชีพสวมกันทุกคน
ตกเย็นมีพายุฝนเข้ามาอย่างรุนแรง ผมต้องย้ายที่นอนจากหน้าแพออกมา
เพราะฝนสาด เราไม่รู้สึกกลัวแม้ลมจะแรง แอบหลบแรงลมอยู่ในซอกหลังเกาะ
กลางคืนฟ้ากระจ่างเห็นพระจันทร์เต็มดวง
ตอนรุ่งสางพระจันทร์สีแดงสดค่อย ๆ ลับยอดเขาหายไป

กิจกรรมบนแพก็มีหลากหลาย
ทั้งดื่มกิน ร้องเพลง เต้นรำ ถ่ายรูปกันเอง ถ่ายรูปทิวทัศน์
ทำอาหารที่เตรียมมา เล่นเกม พูดคุยทักทายกันประสาญาติมิตร
เล่นน้ำเมื่อแพหยุด สำรวจเกาะ นั่งนอนตามอัธยาศัย
เจ้าของแพบอกว่าปกติมีหมอนวดประจำแพ
แต่ครั้งนี้เป็นหยุดเทศกาล จึงลากลับบ้าน

ถ้าเพื่อน ๆ สนใจไปเที่ยว เสนอว่าเตรียมฟืน ไฟฉาย เต้น มีด หรือของเล่นชายหาด
ไปพจญภัยบนเกาะ มีมีดไว้ตัดต้นไมยราบ ทำทางให้นักท่องเที่ยวรุ่นต่อไป
เพราะเห็นหลายจุดที่น่าจะมีนักท่องเที่ยว ก่อไฟทิ้งไว้
แต่ดีที่ไม่มีขยะใด เจ้าของแพคงช่วยกันดูแลอย่างดี
เพราะคืนนั้นเห็นมีแพมาจอดค้างคืนประมาณ 5 แพ
รวมคนก็อาจถึง 150 คน
แต่นักท่องเที่ยวคงเป็นผู้สูงอายุกันเยอะ ไม่ค่อยเดินเพ่นพ่านบนเกาะเท่าใด

ขากลับ ตอนเช้าเราออกค่อนข้าวเร็ว
ผม และนักไต่เขาถูกเรียกจากยอดเขา นึกว่าเรียกไปทานข้าว
แต่เรียกให้ขึ้นแพ เพราะรีบเดินทางไปที่เกาะวัดพระพุทธบาทเขาหนาม
บนเขาลูกนี้มีต้นคล้ายว่านหางจระเข้จำนวนมากแทบทั้งเกาะ
น่าจะเป็นที่มาของคำว่าเขาหนาม
การขึ้นเกาะนี้ค่อนข้างสูง ชัน และแคบ ทำให้นึกถึงดอยฮางที่เกาะคา
"ปัจจุบันทางขึ้นพัฒนาดีขึ้นมาก เหยียบได้เต็มเท้าเกือบทุกขั้น"
เป็นคำบอกเล่าของญาติที่เคยมาแล้วสองครั้ง
ด้านบนก็พัฒนาไปมาก มีสิ่งก่อสร้างเพิ่มขึ้น นับได้ประมาณ 7 แหล่ง
นอกจากต้องใช้พลังภายในขับตัวเองให้ขึ้นไปถึงจุดสุดยอดแล้ว
ยังต้องใช้อีกไม่น้อย กว่าจะทัวร์ให้ครบแหล่งธรรมให้ครบ 7 แหล่ง
ขาลงก็เหนื่อยไม่น้อย ลงมารับประทานข้าวต้ม รู้สึกอร่อยมาก
เพราะทั้งเหนื่อยและหิว ทานเยอะไม่ได้มีปริมาณจำกัดแบบโต๊ะจีน
https://www.facebook.com/gthaiall/media_set?set=a.744434575591166.1073741863.100000738912455

Think different